ALLY REIT สุดแกร่ง อัตราเช่าพื้นที่หนุนกำไรไตรมาสแรก 141.39 ล้านบาท

กองทรัสต์อัลไล (ALLY) โชว์ผลงานไตรมาสแรก ทำกำไรจากการลงทุนสุทธิ 141.39 ล้านบาท รายได้ 331.03 ล้านบาท จากอัตราเช่าพื้นที่ช่วยหนุน ชี้ธุรกิจศูนย์การค้าที่แข็งแรงที่สุดในตลาดโตเหนือคู่แข่ง เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 มิถุนายน 2564นี้

นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.รีท แมเนจเมนท์ จำกัด (ในเครือ เคอี กรุ๊ป) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์อัลไล (ALLY) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 กองทรัสต์มีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 141.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% และมีรายได้ 331.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาส 4 ปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และรายได้อื่นที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานในครั้งนี้ เรียกว่า ดีเกินคาดหมาย ส่วนหนึ่งเพราะการขยายพอร์ทลงทุนในโครงการใหม่ๆ รวมทั้งเป็นธุรกิจศูนย์การค้าประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ประชากรเยอะ และมีกำลังซื้อสูง แม้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 และระลอก 3 ยังพบว่า มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีความปลอดภัยสูงกว่า และร้านค้าส่วนใหญ่ขายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สะท้อนถึงรายได้ทั้งกลุ่มลดลงเพียงแค่ 5% จากปี 63 เมื่อเทียบกับศูนย์การค้าทั่วไปที่ลดลง 30-40% และกำไรลดลง 5% เมื่อเทียบกับศูนย์การค้าทั่วไปที่ลดลง 40-50% และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ (ทราฟฟิก) ยังอยู่ที่ 80% ในช่วงเวลาปกติหากเทียบกับศูนย์การค้าทั่วไปอยู่ที่ 50-60% เป็นหนึ่งในธุรกิจศูนย์การค้าที่แข็งแรงที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ยังเน้นกลยุทธ์ Synergy Made Growth ดูแลรักษาผู้เช่าอย่างดี ช่วยส่งเสริมการขาย เพื่อที่จะเติบโตไปด้วยกัน ทำให้ปัจจุบันมี Occupancy Rate ขึ้นมาถึง 94.4% มีการเพิ่มร้านค้าแบรนด์ดัง เช่น ชงเจริญ อาฟเตอร์ยำ Jett Fitness เข้ามาในพอร์ท

นอกจากนี้ กองทรัสต์ฯ ยังได้จ่ายเงินปันผลทั้งหมด 131.12 ล้านบาท 0.15 บาทต่อหน่วย สัดส่วนคิดเป็น 94.54% ของกำไรสุทธิปรับปรุงแล้ว ซึ่งจะจ่ายในวันที่ 11 มิถุนายน 2564 และวันที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD คือวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยคิดเป็นผลตอบแทน 9.16% ต่อปี โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ราคาตลาดของหลักทรัยพ์ของกองทรัสต์ฯ ปิดที่ 6.55 บาทต่อหน่วย ถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมือเทียบกับตลาด และมีสัดส่วนราคาตลาดต่อสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยที่ 0.68 เท่า ซึ่งต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมของหลักทรัพย์

สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี ถึงแม้ว่ายังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 มองว่าผลดำเนินการจะเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น มีฐานผู้เช่าที่แข็งแรง และได้ปรับกลยุทธ์โดยการเพิ่มรายได้จากช่องทางเสริมเช่น การร่วมมือกับ Delivery Platform การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และลดค่าใช้จ่ายผ่านการบริหารแบบรวมศูนย์ได้

ปัจจุบันทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (กองทรัสต์ฯ) บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ประเภทศูนย์การค้าทั้งหมด 11 แห่งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเชียงใหม่ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 146,775 ตรม. และมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 12,700 ล้านบาท