ผลประกอบการของกองทรัสต์

ผู้จัดกองทรัสต์ยังคงมุ่งเน้นให้กองทรัสต์ มีโอกาสเติบโตต่ออย่างเนื่อง จึงดำเนินการขยายขอบเขตการลงทุนของทรัสต์ ให้สามารถลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มอื่นๆ ได้ เช่น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม อาคารสำนักงาน ตลาด พื้นที่พาณิชย์และคลังสินค้า

Balance Sheet

Total asset Value (MB.)
Cash & Equivalents (MB.)
Net asset Value (MB.)
NAV (Baht/ Unit)
Debt /TAV (Times)
  • ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ALLY REIT มีสินทรัพย์รวม 13,508.3 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 6.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 0.1 แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 413.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.2 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในโครงการเดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์และโครงการเดอะ ไพร์ม หัวลำโพง ประกอบกับลูกหนี้รายได้ค่าเช่าและค่าบริการค้างรับลดลงจากไตรมาสก่อนและช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 32.7 ล้านบาท และ 17.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.4 และ 6.8 ตามลำดับ โดยมีสาเหตุหลักมาจากลูกหนี้จากการค้างชำระค่าเช่าล่าช้าจำนวน 182.5 ล้านบาท และลูกหนี้ที่เกิดจากการบันทึกบัญชีแบบเส้นตรงจำนวน 79.0 ล้านบาท
  • ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ALLY REIT มีหนี้สินรวม 5,052.4 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 12.9 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.3 และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 351.4 หรือคิดเป็นร้อยละ 7.5 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเบิกเงินกู้ยืมระยะยาว เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้ากาดฝรั่ง วิลเลจ เชียงใหม่ โครงการเดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์ และโครงการเดอะ ไพร์ม หัวลำโพง และรายการเจ้าหนี้การค้า โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลากันของปีก่อน 15.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36.4
  • สินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เท่ากับ 8,455.9 ล้านบาท คิดเป็นสินทรัพย์สุทธิ 9.6738 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจาก 9.6668 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 และเพิ่มขึ้นจาก 9.6024 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564

Income Statement

Total revenue (MB.)
Net investment income (MB.)
Distribution income (MB.)
Distribution per unit (Baht)
  • ไตรมาส 4 ปี 2565 ALLY REIT มีรายได้รวม 424.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.5 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 96.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในทรัพยสินเพิ่มเติม ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าเดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์ และโครงการเดอะไพร์ม หัวลำโพง และการลดลงของส่วนลดค่าเช่าที่มีการให้เพื่อช่วยเหลือผู้เช่าในช่วงการระบาด COVID-19 ส่งผลให้ กองทรัสต์มีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจำนวน 379.7 ล้านบาท หรือคิดการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 22.4 โดยมีสาเหตุมาจากการเปิดบริการของศูนย์การค้าตามปกติ

    ทั้งนี้ สำหรับระยะเวลาผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 กองทรัสต์มีรายได้รวม 1,592.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 41.2 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจำนวน 1,441.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 31.7 สืบเนื่องมาจากการเปิดดำเนินการตามปกติของศูนย์การค้า และการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมของกองทรัสต์ข้างต้น

  • ไตรมาส 4 ปี 2565 ALLY REIT มีค่าใช้จ่ายรวม 269.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.7 และเพิ่มขึ้น 53.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 24.6 โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 31.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 21.0 ล้านบาท และ 14.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 195.4 และ 86.5 ตามลำดับ เนื่องจากการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ

    สำหรับระยะเวลาผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 กองทรัสต์มีค่าใช้จ่ายรวม 972.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 30.8 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมของกองทรัสต์ ซึ่งมีแหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมเงิน ส่งผลให้กองทรัสต์มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.2 ประกอบกับการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม กองทรัสต์มีมูลค่าสินทรัพย์รวมเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการบริการจัดการ ค่าธรรมเนียมทรัสตี ค่าธรรมเนียมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 7.4 และ 41.1 ตามลำดับ

  • ไตรมาส 4 ปี 2565 ALLY REIT มีรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งสิ้น 154.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 2.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.4 และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 43.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 38.9

    สำหรับระยะเวลาผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 กองทรัสต์มีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 619.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 61.2 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ประกอบกับสถานการณ์และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้กองทรัสต์มีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ รวมถึงรายได้ค่าเช่าพื้นที่ส่วนกลางจากพื้นที่การจัดกิจกรรมของโครงการศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น

  • ALLY REIT ประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์สำหรับไตรมาส 4 ปี 2565 จำนวน 0.1730 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดการวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิในการรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 13 มีนาคม 2566 และมีกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 31 มีนาคม 2566

    สำหรับปี 2565 ALLY REIT ประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในอัตรา 0.6500 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าการจ่ายรวม 568.2 ล้านบาท